คนเราส่วนใหญ่ถูกสอนให้ทำเรื่องต่าง ๆ ตามที่คนอื่นทำตาม ๆ กันมา เราเห็นใครทำธุรกิจสร้างแบรนด์ติดตลาดจนประสบความสำเร็จ เราเห็นมัน work ก็เลยทำตาม สร้างแบรนด์ของเราเองขึ้นมา….
หากคิดแบบนี้ไม่ได้ผิดอะไร แต่คุณจำเป็นต้องรู้เหตุผลที่แท้จริงของการมีแบรนด์ มิเช่นนั้น ในระยะยาวเมื่อถึงจุดหนึ่งแบรนด์คุณก็จะเสียหรือไร้ความสำคัญ เพราะคุณเองไม่เหํนความสำคัญที่จะต้องมีแบรนด์อย่างแท้จริง
แล้วแบรนด์คืออะไรล่ะ?
ความจริงแล้ว การสร้างความแตกต่าง(Differentiation) ถือเป็นรากฐานของการตลาดมากกว่า ส่วนแบรนด์อาจจะมองว่าเป็นเหมือนเครื่องมือ(Marketing Tool)อย่างหนึ่งในการทำการตลาดก็ว่าได้ครับ
เช่น ปีนี้บริษัท Toyota ให้โจทย์กับทีมการตลาดมาว่า เราต้องการขยายตลาดไปจับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ ทางทีมการตลาดก็มีเครื่องมือให้เลือกว่าจะทำยังไงเพื่อให้ประสบผลสำเร็จบ้างล่ะ
1.เราจะออกหนังโฆษณาเพื่อสื่อสารกับกลุ่มผู้สูงอายุโดยตรง โดยนำเสนอ Functional Benefit / Emotional Benefit ก็ว่ากันไป
2.หรือเราจะออกแบรนด์รถยนต์ใหม่ที่เป็นตัวแทนของคนกลุ่มนี้ออกมา โดยอาจจะใช้รถรุ่นเดิมนี่แหละมาเพิ่ม function อะไรนิดหน่อยให้เหมาะสมกับคนกลุ่มนี้
การสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน ไม่ได้หมายถึงเฉพาะสินค้าเท่านั้น แต่ได้พัฒนาไปเป็นแบรนด์ที่เป็นตัวบุคคล(Personal branding), สถานที่(สร้างแบรนด์ประเทศ/สถานที่ท่องเที่ยว ex. Amazing Thailand), วัตถุดิบ(Ingredient Branding ex. Teflon, Intel inside)
สรุปเราสร้างแบรนด์ไปเพื่ออะไร?
เราสร้างแบรนด์เพื่อหวังผลระยะยาว คล้ายกับการที่เราทำหนังโฆษณาเพื่อให้ลูกค้าจดจำ message ที่เราอยากสื่อออกไป ซึ่งสำหรับแบรนด์จะเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันถูกสื่อสารเข้าสู่สมองของลูกค้า
ถ้าลูกค้าเราจดจำแบรนด์ได้…
เวลาลูกค้าไปซื้อสินค้าก็นึกถึงแบรนด์นี้…ทำให้สุดท้ายเราตัดสินใจซื้อแบรนด์นี้ ทั้งที่จริงอีกแบรนด์ราคาถูกกว่า แถมคุณภาพดีกว่าด้วยซ้ำ แต่เราจำแบรนด์นี้ได้อ่ะ เลยคิดว่าแบรนด์นี้น่าจะดีกว่า
ถ้าแบรนด์นั้นแข็งแกร่งจริง จะสามารถกลายเป็น “Barrier to entry” ซึ่งแย่งลูกค้าจากคู่แข่งได้อีกด้วย
Blogger Comment
Facebook Comment