บทความนี้เป็นเหมือนปฐมบทเบื้องต้นสำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับงานโฆษณา อยากทำงาน หรือกำลังเริ่มทำงานในวงการนี้ก็ตาม แนะนำควรอ่านเอาไว้
ความหมายของการโฆษณา
โฆษณา(Advertising) คือ การจ่ายเงินเพื่อการสื่อสารแบบไม่ใช้บุคคลเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับองค์กร สินค้า บริการ หรือไอเดียบางอย่าง
การทำงานโฆษณาจะมีคนที่เกี่ยวข้องหลายอาชีพหลายตำแหน่งมาก โดยหลัก ๆ จะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งลูกค้าเจ้าของสินค้า กับฝั่งเอเจนซี่ผู้คิดและทำงานโฆษณาออกมา
โดยจะเริ่มจากฝั่งลูกค้ามีความต้องการทำหนังโฆษณาเพื่อออกสินค้าใหม่ แคมเปญใหม่ แย่งแชร์จากคู่แข่ง ตอบโต้คู่แข่ง จับกลุ่มลูกค้าใหม่ เป็นต้น แล้วจึงทำการนัดเอเจนซี่ต่างๆ เพื่อเข้ามารับ Brief โจทย์ของสินค้าเพื่อให้กลับไปคิดไอเดียมานำเสนอ โดยเราจะเรียกว่า การ pitch งาน โดยทางเอเจนซี่มักจะขอเก็บค่าธรรมเนียม แต่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายมากมายอะไรนัก แค่หลักหมื่นบาทเองครับ ถือเป็นค่าเหนื่อย
สิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจก่อนจะเริ่มงานโฆษณาทุกชิ้น ทั้งฝั่งลูกค้าและคนทำโฆษณาควรจะต้องทราบ 5Ms เหล่านี้ชัดเจนก่อน ได้แก่
Mission : เป้าหมายของงานโฆษณานี้คืออะไร
Money : คุณมีงบประมาณเท่าไหร่
Message : key message ที่เราต้องการสื่อสารไปยังลูกค้ามีอะไรบ้าง
Media : เราจะเลือกใช้สื่ออะไรบ้าง
Measurement : จะวัดผลงานโฆษณานี้อย่างไร
สิ่งที่ลูกค้าจะ Brief ต้องชัดเจน(Clear) เพื่อที่ว่าทางเอเจนซี่จะได้คิดไอเดียที่ตรงกับความต้องการ โดยหลัก ๆ ข้อมูลที่ฝ่ายการตลาดของบริษัทลูกค้าต้องให้มี 5 ข้อดังนี้
1. ภูมิหลังบริษัท (Company Background)
2. ตลาดเป้าหมาย (Target Market)
3. กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategies)
4. สภาพตลาดและสภาพการแข่งขัน (Market and Competition situation)
5. วัตถุประสงค์ (Objectives)
เมื่อเอเจนซี่ตีโจทย์แตกเกิดเป็น Big idea Big concept แล้ว ก็นัดกับลูกค้าเพื่อนำเสนองาน โดยการ Pitch งานนั้น บางครั้งก็ไปนำเสนอพร้อมกันที่บริษัทลูกค้า หรือบางกรณีก็เรียกลูกค้ามาที่ออฟฟิศเอเจนซี่เอง(ซึ่งทางเอเจนซี่จะสามารถตกแต่งบรรยากาศ สภาพแวดล้อมของออฟฟิศ หรือห้องพรีเซนต์ให้เหมาะกับ Theme ที่จะขายงาน ซึ่งก็อาจจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคล้อยตามและพึงพอใจกับไอเดียดังกล่าวก็เป็นได้ครับ)
หลังจากลูกค้ารับฟังการพรีเซนต์ของเอเจนซี่แต่ละรายเสร็จ ก็จะกลับไปหารือและให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะเลือกรายใด จากนั้นจึงแจ้งให้เอเจนซี่แต่ละแห่งทราบ และเรียกรายที่ผ่านเข้ามาคุยรายละเอียดกันต่อไป
ที่ผมเรียกว่า ผู้มีอำนาจ เพราะแต่ละบริษัทให้คนหรือตำแหน่งที่รับผิดชอบตัดสินใจต่างกัน เพราะการโฆษณาหมายถึงการต้องจ่ายเงินเป็นล้าน ถ้าเป็นบริษัทเล็ก ๆ ปีนึงคงโฆษณาได้แค่ครั้งเดียว คนที่ตัดสินใจอาจจะเป็นถึงระดับประธานบริษัทหรือผู้บริหารระดับสูง แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ยอดขายหมื่นล้าน มีหลายธุรกิจหลายตราสินค้า คนที่ตัดสินใจก็อาจจะเป็น Marketing Manager หรือ Division manager ซึ่งในมุมของเอเจนซี่ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นผู้มีอำนาจและเข้าหาให้ถูกคน เข้าใจความต้องการของคน ๆ นั้นให้ดีนะครับ
Blogger Comment
Facebook Comment